Radiesse คืออะไร?
Radiesse (เรเดียส) คือ สารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ใช้ในการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูสภาพผิว แต่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป ตรงที่ Radiesse มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ และ “อยู่ได้นานกว่า”
ส่วนประกอบหลัก: Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารประกอบ “แคลเซียม” ชนิดเดียวกับที่พบในกระดูกและฟันของมนุษย์ จึง “ปลอดภัย” และ “เข้ากันได้ดี” กับร่างกาย
Radiesse แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปอย่างไร?
- กระตุ้นคอลลาเจน: Radiesse ไม่เพียงแต่เติมเต็มร่องลึก แต่ยังช่วยกระตุ้น การสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิว เรียบเนียน และยืดหยุ่น มากขึ้น
- ผลลัพธ์ยาวนาน: ผลลัพธ์ อยู่ได้นาน ประมาณ 12-18 เดือน
- ความปลอดภัย: Radiesse สลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และได้รับ การรับรอง จาก FDA (สหรัฐอเมริกา) และ อย. (ประเทศไทย)
- การรักษาด้วย Radiesse
Radiesse สามารถใช้ ในการรักษา ปัญหาผิว ดังนี้
- แก้ไขปัญหาริ้วรอย: เช่น ร่องแก้ม, ร่องใต้ตา, รอยย่น บนหน้าผาก
- ปรับรูปหน้า: เช่น เติมเต็มขมับ, คาง, จมูก, แก้ม
- ยกกระชับ: เช่น ยกกระชับแก้ม, กรอบหน้า
- แก้ไขปัญหารูปร่าง: เช่น เติมเต็ม หลังมือ, สะโพก
ขั้นตอนการรักษา
- ปรึกษาแพทย์: แพทย์จะประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา
- ทำความสะอาดผิว: เช็ดทำความสะอาด บริเวณที่จะทำการรักษา
- ทายาชา: (ในบางกรณี)
- ฉีด Radiesse: แพทย์จะฉีด Radiesse เข้าสู่ชั้นผิว
- ประคบเย็น: หลังการรักษา เพื่อลดอาการบวม และรอยช้ำ
ข้อดีของ Radiesse
- เห็นผลลัพธ์ ทันที หลังการรักษา
- ผลลัพธ์ เป็นธรรมชาติ
- กระตุ้น การสร้างคอลลาเจน
- ผลลัพธ์ อยู่ได้นาน
- มีความปลอดภัยสูง
ข้อควรระวัง
- ควรฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- อาจมีผลข้างเคียง เช่น บวม, ช้ำ, รอยเข็ม ซึ่งมักจะหายไปเอง ภายใน 1-2 สัปดาห์
ใครที่เหมาะกับ Radiesse
- ผู้ที่ต้องการ แก้ไขปัญหาริ้วรอย
- ผู้ที่ต้องการ ปรับรูปหน้า
- ผู้ที่ต้องการ ยกกระชับใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการ ผลลัพธ์ ที่เป็นธรรมชาติ และยาวนาน
ข้อห้าม
- ตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติ แพ้สารประกอบ ใน Radiesse
- ผู้ที่มีโรค เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
คำถามที่พบบ่อย
Radiesse เจ็บไหม?
- ก่อนการรักษา จะมีการทายาชา ทำให้รู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย หรือแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย
- หลังยาชาหมดฤทธิ์ อาจมีอาการตึงๆ บริเวณที่ฉีด
Radiesse อยู่ได้นานแค่ไหน?
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 12-18 เดือน
- ขึ้นอยู่กับ เทคนิคการฉีด, การดูแลตัวเอง และสภาพผิว ของแต่ละบุคคล
ดูแลตัวเองอย่างไร หลังการฉีด?
- ประคบเย็น บริเวณที่ฉีด
- งดแต่งหน้า
- งดนอนคว่ำหน้า
- งดทาครีม ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, วิตามิน A
- งดอบซาวน่า, อบไอน้ำ
ผลข้างเคียง มีอะไรบ้าง?
- ผลข้างเคียง พบได้น้อยมาก เช่น บวม, ช้ำ, รอยเข็ม, การติดเชื้อ ซึ่งมักจะหายไปเอง ภายใน 1-2 สัปดาห์
หมายเหตุ : ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนการรักษา เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา ที่เหมาะสม